top of page
Writer's pictureTSIS

สะท้อนความเจ็บปวดอย่างเป็น 'ศิลปะ' ผ่านภาพยนตร์ Confessions

By Piyanat Chasi

ยุคสมัยหนึ่งนิยามความงามของศิลปะที่ดีคือภาพ “ความจริง” หรือ “สะท้อนสังคม” ในตอนต้นศตวรรษที่ 20 ได้เกิดศิลปะลัทธิแสดงพลังอารมณ์ (Expressionism) ศิลปะเน้นแสดงความรู้สึกมีชีวิตชีวา (being alive) และ สะท้อนความเป็นจริงทางสังคม แต่ปรากฏในลักษณะ “บิดเบือน” ความจริงเพื่อที่จะแสดงผลทางอารมณ์ ให้ความรู้สึกรุนแรงจากภายใน (angst) นําประสบการณ์ทางอารมณ์มาแทนความจริงทางวัตถุ

งานศิลปะลัทธิแสดงพลังทางอารมณ์ไม่ได้มีเพียงแค่ในศิลปะจิตรกรรมยังปรากฏผ่านศิลปะแขนงที่เจ็ดอย่าง “ภาพยนตร์” เช่นกัน

ในภาพยนตร์เรื่อง Confessions เราได้เห็นการนําเสนอ “ความจริง” อันเจ็บปวดของสังคมญี่ปุ่นผ่านเหตุการณ์การแก้แค้นกันของ คุณครูสาวที่ลูกสาวเธอถูกฆาตกรรมโดยนักเรียนประจําห้องของเธอ ภาพความจริงถูกทําให้บิดเบือนโดยเทคนิคต่าง ๆ ในงานภาพยนตร์เสมือนกับการสบัดฝีแปรงด้วยสีสดและตัดกันลงในผ้าใบเพียงแต่ในภาพยนตร์เราจะเห็นการบิดเบือนความจริง ความรู้สึกทางอารมณ์ผ่านบทภาพยนตร์ ภาพ เสียง การตัดต่อและดนตรีประกอบ


ถ้านิยามของศิลปะลัทธิแสดงพลังอารมณ์ (Expressionism) คือ การแสดงออกถึงความรุนแรงภาย ในบทภาพยนตร์ Confessions คือการลงโครงร่างของงานด้วยดินสอ ร่างโครงต่าง ๆ ขึ้นมาโดยมุ่งนําเสนอความเป็นจริงของสังคมญี่ปุ่นว่าภายใต้ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจมีความกดดันภายในตัวปัจเจกบุคคลมากเพียงไร


จุดเริ่มต้นของ การแก้แค้นในเรื่องเกิดจากเด็กชาย A ถูกแม่ตนทิ้งไปจนนํามาสู่คดีฆาตกรรมและเกิดปัญหามากมายตามมา “แม่” ของเด็กชาย A นําเสนอปัญหาทางโครงสร้างของญี่ปุ่นว่า “ผู้หญิง” ตกอยู่ภายใต้สังคมชายเป็นใหญ่แม้ว่าเธอจะมีความสามารถในการทํางานมากเพียงใด บทบาทสําคัญของผู้หญิงยังถูกจํากัดเพียงแค่ต้องเป็น “แม่บ้าน” เธอไม่สามารถเลือกทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันได้


เมื่อความกดดันในชีวิตสูงจนเธอแบกรับไม่ไหวจึงเลือกกลับไปเดินในเส้น ทางการทํางานมากกว่าจะเป็นแม่บ้าน เธอได้ทิ้งปัญหาไว้เบื้องหลังจนนํามาสู่ความรุนแรงต่างๆ ในภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่ แม่เด็กชาย A ที่ต้องเผชิญหน้ากับสังคมเช่นนี้ ยังมีแม่ของเด็กชาย B และคุณครูสาวผู้ทําการแก้แค้น


ดินสอที่ขึ้นโครงนี้ เลือกวาดภายผู้หญิงในสังคมญี่ปุ่นเป็นโครงหลักของศิลปะว่าความเป็นจริงผู้หญิงต้องเลือกหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นแม่บ้านอย่างแม่ของเด็กชาย B หรือเป็นผู้หญิงเก่งด้านการทํางานอย่างแม่เด็กชาย A หรือเป็นทั้งสองอย่างจนมี ช่องว่างทางเวลาจนทําให้ลูกสาวตนถึงแก่ความตาย


เมื่อขึ้นโครงร่างงานศิลปะด้วยบทภาพยนตร์แล้วนั้นเทคนิคการลง สีคือองค์ประกอบที่สําคัญในศิลปะรูปแบบนี้เปรียบได้กับ “ภาพ” และ “การตัดต่อ” ในภาพยนตร์ สีรุนแรงตัดกัน อย่างจัดจ้านปรากฏผ่านเทคนิคการตัดต่อโดยเล่าเรื่องราวของผู้ที่เกี่ยวข้องหลักทุกคน นําเสนอมุมมองแต่ละคนได้ อย่างชัดเจนถึงเหตุผลของการกระทําต่างๆ เป็นรูปแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ

สีจัดจ้านของศิลปะใน ภาพยนตร์ยังเห็นได้ในงานภาพ เราได้เห็นท้องฟ้าของเรื่องมีสภาพครึ้มตลอดเวลาช่วยเพิ่มความครึ้มอกครึ้มใจให้ผู้ชมได้เป็นอย่างมากเพราะตัวละครต่าง ๆ ก็มีการกระทําที่มัว ๆ ไม่ชัดเจน ไม่แจ่มใสเช่นเดียวกันกับสภาพท้องฟ้า ภาพฝนตกที่จับภาพเป็นสโลโมชั่น (Slowmotion) เน้นย้ําอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมเสมือนกับฝีแปรงที่รุนแรงของศิลปะ เสียงและดนตรีคือการเก็บรายละเอียดของภาพเพิ่มผลทางอารมณ์ ภาพกระจกเป็นถนนเป็นอีกเทคนิคทางศิลปะที่ แสดงถึงความบิดเบือนในใจของตัวละครอย่างชัดเจน


กระจกมีลักษณะโค้งนูนเมื่อมองแล้วให้ความรู้สึก “ไม่จริง” หรือ หลวงสายตาเรา เช่นเดียวกันกับกระจกที่เห็นเมื่อฉากเด็กชายสองคนคุยกัน ทั้งคูู่กําลังมีจิตใจที่บิดเบือนจนนํามาสู่ ความรุนแรง ภาพในกระจกของคุณครูชายกับเด็กสาวที่เดินทางไปบ้านเด็กชาย B สะท้อนว่ามีเหตุการณ์บางอย่างไม่ ถูกต้อง ความจริงคือสองคนนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุให้เด็กชาย B ทําอนันตริยกรรมหรือฆ่าแม่ตน


ภาพเลือดเป็นอีกหนึ่งในสีจัดจ้าน เราเห็นเลือดมากมายในหลายเหตุการณ์ แค่เพียงเลือดก็ทําหน้าที่ความรุนแรงในตัวมันเองแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยเลือดปรากฏบ่อยครั้งและกระจัดกระจายหรือพุ่งออกมาอย่างน่ากลัวมากยิ่งขึ้น เสียง และดนตรีประกอบถูกทําหน้าที่เก็บความสมบูรณ์แบบและช่วยสร้างอารมณ์มากไม่แพ้กับองค์ประกอบอื่นๆ


ในงาน ศิลปะ การใช้เสียง Voice over หรือเสียงพูดบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครคือการเพิ่มให้ความรุนแรงภายใน ปราฏออกมาได้อย่างชัดเจน และดนตรีที่ใช้คือเพลงสดใสในช่วงเหตุการณ์อันน่าหดหู


ช่วงที่เด็กนักเรียนรวมตัวกันส่ง จดหมายอวยพรไปให้เด็กชาย B เป็น Montage ของเด็กนักเรียนที่ถ้าเราเปิดมาแล้วเจอช่วงเหตุการณ์เหล่านี้คงคิดว่า ภาพยนตร์นี้คือความสดใสของเด็กนักเรียน เพลงอันสดใสสวนทางกับข้อความแช่งให้เด็กชาย B นั้นไปตายซะ

ถ้าบท คือการขึ้นโครงร่างงาน ภาพและการตัดต่อคือการใช้ฝีแปรงลงสีอย่างจัดจ้าน เสียงและดนตรีประกอบก็คือการลงสีซ้ํา หรือย้ําโครงร่างเพิ่มอีกเพื่อเก็บรายละเอียดของงานศิลปะให้สมบูรณ์

งานศิลปะลัทธิแสดงพลังอารมณ์ (Expressionism) คือการบิดเบือนความจริงเพื่อเพิ่มอารมณ์ในการรับชม ความจริงให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น ภาพยนตร์ Confessions จัดเป็นงานศิลปะในรูปแบบนี้ที่ประสบความสําเร็จ


เรารับชม ความรุนแรงทางสังคมได้อย่างสวยงามเป็นศิลปะ ชวนให้ดูต่อได้แม้จะเนื้อหาจะรุนแรงหรือเจ็บปวดมากเพียงไร แต่ ทั้งหมดนั้นก็สอดแทรกความสวยงามเช่นกัน เพราะองค์ประกอบทางศิลปะที่รวมกันทั้งบท ภาพ การตัดต่อ เสียง และ ดนตรี ร้อยเรียงเข้าด้วยกันจนกลายเป็นความเจ็บปวดอันงดงามอย่างเป็นศิลปะ


Illustration by Arnon Chundhitisakul

 

283 views1 comment

1 Comment


CBKM BOCU
CBKM BOCU
Nov 03

EPTU Machine ETPU Moulding…

EPTU Machine ETPU Moulding…

EPTU Machine ETPU Moulding…

EPTU Machine ETPU Moulding…

EPTU Machine ETPU Moulding…

EPS Machine EPS Block…

EPS Machine EPS Block…

EPS Machine EPS Block…

AEON MINING AEON MINING

AEON MINING AEON MINING

KSD Miner KSD Miner

KSD Miner KSD Miner

BCH Miner BCH Miner

BCH Miner BCH Miner

Like
bottom of page